ประชาชนหมู่บ้านชุมชนแห่งหนึ่ง รังสิต – นครนายก ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีท่อน้ำประปาของหมู่บ้าน

ประชาชนหมู่บ้านชุมชนร่วมมิตรร่วมใจ 2 ซอยรังสิต – นครนายก 26 ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีท่อน้ำประปาของหมู่บ้าน

ปัญหาเกี่ยวกับน้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภค เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต เป็นสิ่งสาธารณูปโภคพื้นฐานที่รัฐจะต้องจัดเตรียมให้เพียงพอและเหมาะสมต่อความต้องการของประชาชน ผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียน รวมทั้งสิ้น 42 เรื่อง กรณี การประปาส่วนภูมิภาคสาขาแห่งหนึ่ง (ชั้นพิเศษ) บริหารจัดการน้ำประปาโดยไม่มีประสิทธิภาพ โดยสรุปปัญหาเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ได้ดังนี้

1. น้ำประปาไหลอ่อน น้ำประปาไม่ไหลและหยุดการจ่ายน้ำบ่อยครั้งในบางครั้ง มีการหยุดจ่ายน้ำนานเกินกว่าระยะเวลาที่แจ้งไว้ และหน่วยงานขาดการชี้แจงถึงสาเหตุให้ผู้ร้องเรียนทราบ ท่อน้ำประปาแตกบ่อย ขาดการบำรุงซ่อมแซม อ้างว่างบประมาณ ไม่เพียงพอ มีการเลื่อนเวลาซ่อมแซมหลายครั้ง และใช้เวลาในการซ่อมแซมหลายวัน

2. ขาดมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนจากกรณีการหยุดให้บริการการจ่ายน้ำประปา

3. ขาดการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการส่งน้ำประปาล่วงหน้า แจ้งข้อมูลล่าช้า ช่องทางประชาสัมพันธ์ไม่ครอบคลุมและทั่วถึง ส่งผลให้ผู้ร้องเรียนไม่สามารถสำรอง น้ำประปาไว้ใช้ได้อย่างเพียงพอและทันเวลา

ทั้งนี้ ขอหยิบเรื่องร้องเรียนที่ได้รับการแก้ไขได้โดยเร็วจาก 42 เรื่อง มาเล่าสู่กันฟัง เป็นคำร้องเรียนทางอินเทอร์เน็ตจากประชาชนในชุมชนแห่งหนึ่ง รังสิต – นครนายก โดยจากคำร้องเรียนปรากฏข้อเท็จจริง สรุปได้ว่า

หมู่บ้านชุมชนแห่งหนึ่ง รังสิต – นครนายก มีผู้อาศัยมากกว่า 150 หลังคาเรือน แต่ไม่มีท่อน้ำประปาในหมู่บ้าน จึงต้องขอต่อท่อเพื่อใช้น้ำประปาจากอีกชุมชนเพื่อแบ่งน้ำประปาใช้ร่วมกัน   ทำให้น้ำประปาไหลอ่อน และน้ำประปาไม่เพียงพอ หมู่บ้านชุมชนแห่งหนึ่ง รังสิต – นครนายก ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีท่อน้ำประปาของหมู่บ้าน

ผู้ตรวจการแผ่นดิน (นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต) ได้พิจาณาข้อร้องเรียนและได้มอบหมายให้แสวงหาข้อเท็จจริง และประชุมหารือแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมการประปาส่วนภูมิภาคสาขารังสิต (ชั้นพิเศษ) พร้อมกับลงพื้นที่ ณ หมู่บ้านชุมชนแห่งหนึ่ง รังสิต – นครนายก

จากการประชุมและแสวงหาข้อเท็จจริงร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาคสาขาแห่งหนึ่ง(ชั้นพิเศษ) กรณีไม่ดำเนินการให้มีน้ำประปาในหมู่บ้านชุมชนแห่งหนึ่ง รังสิต – นครนายก ข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ร้องเรียนได้เคยร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปที่ศูนย์ดำรงธรรมและสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งในครั้งนั้น ทางหมู่บ้านชุมชนแห่งหนึ่ง รังสิต – นครนายก ได้ประสานงานกับการประปาส่วนภูมิภาคสาขาแห่งหนึ่ง (ชั้นพิเศษ) แจ้งความประสงค์ที่จะสมทบเงินในการวางระบบท่อน้ำประปาในพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 350,000 บาท และได้ทราบว่า การประปาส่วนภูมิภาคมีแผนที่จะของบประมาณเพิ่มเติมเพื่อจะได้ดำเนินการวางท่อน้ำประปาเข้าไปในชุมชนดังกล่าว

ต่อมา เพื่อแก้ไขการบริหารจัดการน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาแห่งหนึ่ง (ชั้นพิเศษ) ที่มีผู้ร้องเรียน รวมทั้งสิ้น 42 เรื่อง ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนของประชาชนในหมู่บ้านชุมชนแห่งหนึ่ง รังสิต – นครนายก รวมอยู่ด้วยนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดิน (นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต) นายกมลธรรม วาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายสิริน ชาวเพ็ชรดี ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 2 และคณะ ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ผู้อำนวยการการประปาส่วนภูมิภาคเขต 2 ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค (ชั้นพิเศษ) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้แทนผู้ร้องเรียนที่ได้รับความเดือดร้อน ณ ห้องประชุม 901 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน(สผผ.) ได้ข้อเท็จจริงว่าการประปาส่วนภูมิภาคได้เสนอแผนงบประมาณปี 2563 ซึ่งอยู่ระหว่างการรอการพิจารณาจากรัฐสภาและเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวแล้วจะดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ซึ่งใช้เวลาประมาณ 90 วัน และใช้เวลาในการดำเนินการก่อสร้างอีกประมาณ 120 วัน

โดยมติที่ประชุมได้ให้ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาคติดตามโครงการดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษและจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ดังกล่าว ปรากฏว่าถนนในเขตชุมชนดังกล่าวเป็นทางสาธารณะที่เทศบาลนครรังสิตเป็นผู้ดูแล ซึ่งจะทำให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขาแห่งหนึ่ง (ชั้นพิเศษ) สามารถดำเนินการขยายเขตประปาเข้าไปในชุมชนได้

ต่อมา การประปาส่วนภูมิภาคสาขาแห่งหนึ่ง (ชั้นพิเศษ) มีหนังสือถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อรายงานความคืบหน้าการจัดสรรงบประมาณขยายเขตจำหน่ายน้ำประปาให้กับชุมชนร่วมมิตรร่วมใจ 2 ว่าได้รับหนังสือแจ้งความคืบหน้าการขอจัดสรรงบประมาณขยายเขตจำหน่ายน้ำประปาให้กับสหกรณ์เคหะสถาน ร่วมมิตรร่วมใจ จากการประปาส่วนภูมิภาคเขต 2  มีใจความว่า โครงการดังกล่าวได้บรรจุอยู่ในแผนงานโครงการวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำปี 2563 แล้ว (งบอุดหนุนรัฐบาล)  โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เป็นต้นไป ซึ่งการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนหมู่บ้านชุมชนแห่งหนึ่ง รังสิต – นครนายก ได้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน โดยได้รับความร่วมมือและการบูรณาการจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ดี ปัญหาเกี่ยวกับน้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภค เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต เป็นสิ่งสาธารณูปโภคพื้นฐานที่รัฐจะต้องจัดเตรียมให้เพียงพอและเหมาะสมต่อความต้องการของประชาชน ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาของประชาชนในระยะยาว ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้มีข้อเสนอแนะ ให้การประปาส่วนภูมิภาคจัดทำแผนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าว และรายงานผลการดำเนินโครงการบึงคำพร้อยให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทราบในโอกาสแรกเมื่อโครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแจ้งผลการวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินให้กับผู้ร้องเรียนและการประปาส่วนภูมิภาคทราบต่อไป