สผผ. ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ณ จังหวัดชลบุรี

  เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.30 . นายกมลธรรม วาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายอัครพงษ์ เวชยานนท์ ผู้อำนวยการส่วนสอบสวน 3 สำนักสอบสวน 2 และคณะ ลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี สำนักงานโธาธิการและผังเมืองจังหวัดชลบุรี ว่าที่ร้อยตรี อำเภอพนัสนิคม องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวาง และผู้ประกอบการ เพื่อติดตามผลการดำเนินการเรื่องร้องเรียน ณ บริเวณพื้นที่บริษัท เอ็ม.เค.เอส.ฟาร์ม จำกัด ตำบลทุ่งขวาง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี กรณีองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวางไม่ตรวจสอบและกำกับดูแลการขุดดินของบริษัท เอ็ม.เค.เอส.ฟาร์ม จำกัด ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.. 2543 และออกใบอนุญาตก่อสร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กให้กับบริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้มีการก่อสร้างกำแพงปิดกั้นเส้นทางน้ำไหลตามธรรมชาติ เป็นเหตุให้ผู้ร้องเรียนไม่สามารถนำน้ำมาใช้เพื่อการเกษตรในที่นาของผู้ร้องเรียนได้ ซึ่งจากการลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงปรากฏว่า การขุดดินและถมดินของบริษัท เอ็ม.เค.เอส.ฟาร์ม จำกัด เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว และจากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณโดยรอบบริษัท การก่อสร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กไม่ได้เป็นการก่อสร้างปิดกั้นทางน้ำไหลตามธรรมชาติ ซึ่งบริษัท ได้ดำเนินการขุดร่องน้ำในที่ดินของบริษัทเพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้สูบน้ำจากร่องน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรได้ ทั้งนี้ ขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวางและผู้ประกอบการร่วมกันดูแลและตรวจสอบการปล่อยน้ำลงสู่ร่องน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องในระยะยาวต่อไป

    ต่อมาในเวลา 11.00 . นายกมลธรรมวาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยคณะประชุมร่วมกับนายศราวุธกรจิระเจริญนายอำเภอพนัสนิคมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี​  องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวางและผู้ร้องเรียนกรณีผู้ร้องเรียนกล่าวอ้างว่าคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลทุ่งขวาง (คชก. ตำบลทุ่งขวาง) อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ไม่พิจารณาวินิจฉัยให้บริษัทเอกชนซึ่งเป็นผู้รับโอนที่นาจากผู้ให้เช่าขายที่นาให้กับผู้ร้องเรียนตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.. 2524 และที่แก้ไขเพิ่มเติมซึ่งที่ประชุมมีมติให้อำเภอพนัสนิคมสอบข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการเกี่ยวกับการขอซื้อที่นาคืนของผู้ร้องเรียนเข้าสู่อำนาจการพิจารณาของคชกตำบลทุ่งขวางแล้วหรือไม่และให้รายงานไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป

     และในเวลา 13.30 . นายกมลธรรม วาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยคณะ ร่วมกับศุนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ภาค 13 (ชลบุรี) สำนักงานพพัฒนาที่ดินเขต 2 และองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหียง ลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงและหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ณ บริษัท เอ็มไพร์เฟอร์เนซ อินดัสทรี จำกัด อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี กรณีจังหวัดชลบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี และองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหียง ไม่เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีบริษัท เอ็มไพร์เฟอร์เนซ อินดัสทรี จำกัด ปล่อยน้ำเสียลงสู่ที่ดินของประชาชน บริเวณบ้านแปลงเสือครูด หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 16 ตำบลหนองเหียง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยที่ประชุมได้มีมติให้ผู้ประกอบการร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหียงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลและตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ภาค 13 (ชลบุรี) กำหนดและป้องกันไม่ให้น้ำที่ยังไม่ผ่านกระบวนการบำบัดซึมออกนอกบ่อกักของโรงงานไปยังพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการดูแล ติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของให้กับผู้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และร่วมกันวางแผนงานป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้ จังหวัดชลบุรีจะรวบรวมผลการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรายงานให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบต่อไป