กรณีไม่ติดตั้งไฟสัญญาณจราจรและป้ายจราจรเพื่อเตือนผู้ขับขี่

กรณีไม่ติดตั้งไฟสัญญาณจราจรและป้ายจราจรเพื่อเตือนผู้ขับขี่ในบริเวณแยกคันคลองชลประทานหุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี เป็นเหตุให้บริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

เสียงหวอรถกู้ภัย..มุ่งหน้าสู่ถนนทางหลวง 3203  สี่แยกคันคลองชลประทาน หุบกะพง  ภาพเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง  เนื่องจากมีอุบัติเหตุเป็นประจำ และเป็นมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นทุกปี สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากเส้นทางแยกคันคลอง ถือว่าเป็นแยกวัดใจ ที่มีลักษณะเป็น 2 ช่องจราจร เป็นทางแยกตัดกับคลองชลประทานและเส้นทางหลวงชนบท  แต่แยกแห่งนี้ …ไม่มีไฟสัญญาณ ..จราจร ประชาชนในพื้นที่ได้ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินแสวงหาข้อเท็จจริงและเร่งรัดให้หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบในพื้นที่ดำเนินการติดตั้งสัญญาณไฟจราจร และทำเส้นประชะลอความเร็ว พร้อมทั้งติดตั้งป้ายจราจรเตือนภัยแก่ผู้ขับขี่ เป็นการเร่งด่วน เพื่อเตือนผู้ขับขี่ในบริเวณแยกคันคลองชลประทานหุบกะพง ทางหลวงหมายเลข 3203 ตอนทางเข้าโครงการพระราชประสงค์หุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งบริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 2 ลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริง และประชุมหารือกับจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากการประชุมได้รับการชี้แจงจากหน่วยงาน สรุปได้ดังนี้

  1. หลักเกณฑ์ในการติดตั้งไฟสัญญาณจราจร จะต้องมีปริมาณการจราจรในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ในถนนสายหลัก 900 คันต่อชั่วโมง  ถนนสายรองต้องมีปริมาณการจราจร 100 คันต่อชั่วโมง  ซึ่งบริเวณตามกรณีร้องเรียนไม่เข้าเกณฑ์ติดตั้งดังกล่าว แต่นอกจากหลักเกณฑ์ข้างต้นแล้ว  ยังต้องคำนึงถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุด้วย โดยหลักเกณฑ์คือ เกิดอุบัติเหตุรุนแรงเกิน 5 ครั้งต่อปี ก็สามารถติดตั้งสัญญาณไฟจราจรได้ ดังนั้นแม้ว่าบริเวณแยกหุบกะพงไม่เข้าหลักเกณฑ์เรื่องปริมาณการจราจรในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน แต่บริเวณดังกล่าวมีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งและมีอุบัติเหตุรุนแรงเกิน 5 ครั้งต่อปี ดังนั้นจึงสามารถติดตั้งไฟสัญญาณจราจรบริเวณแยกหุบกะพงได้
  2. เส้นทางที่เข้าจากถนนเพชรเกษมเป็นถนนสายหลัก ส่วนเส้นทางเลียบคลองชลประทานเป็นถนน   สายรองซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นตรง สภาพถนนดีกว่าถนนสายหลัก เกิดความสะดวกในการคมนาคม ปัจจุบันจึงมีผู้สัญจรผ่านถนนสายรองเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีแนวทางในการลดอุบัติเหตุ คือทำเส้นชะลอความเร็วบนถนนสายรอง ติดตั้งไฟสัญญาณจราจรกระพริบเตือน ติดตั้งป้ายเตือนลดความเร็วได้ปรับปรุงทัศนียภาพ ตัดต้นไม้ให้ผู้สัญจรเห็นทางแยกชัดเจนขึ้น

    นอกจากนี้ สถานีตำรวจภูธรชะอำและโรงพยาบาลชะอำได้รายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุบริเวณถนนทางหลวง 3203 ตัดกับถนนเลียบคลองชลประทานในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2558-2563) สรุปได้ว่า บริเวณสี่แยกดังกล่าวมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากมีการปรับปรุงถนนเลียบคลองชลประทานทำให้การสัญจรเกิดความสะดวก ประกอบกับเส้นทางดังกล่าวเป็นทางเลี่ยงตัวเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดจึงมีผู้ใช้ถนนเลียบคลองชลประทานสัญจรเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณสี่แยกดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี

    ต่อมาแขวงทางหลวงเพชรบุรีได้มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงและความคืบหน้าเรื่องร้องเรียน โดยได้ดำเนินการ แก้ไขปัญหากาเกิดอุบัติเหตุในระยะเร่งด่วน ปรับปรุงภูมิทัศน์และมาตรการความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ ดังนี้

  3. ติดตั้งป้ายเตือน “ทางแยกข้างหน้า” และ “ลดความเร็ว” ก่อนเข้าทางแยก
  4. ติดตั้งไฟกระพริบเตือนเพิ่ม 1 ดวง (ปัจจุบันมี 1 ดวง)
  5. ตีเส้นจราจรใหม่ เส้นทึบห้ามแซง และเส้นขวางชะลอความเร็ว (Rumble Strip)
  6. ทาสีสะพานใหม่ พร้อมติดตั้งเป้าสะท้อนแสงให้เห็นชัดเจนในเวลากลางคืน
  7. ติดตั้งไฟสัญญาณจราจรกระพริบเตือน (Mast arm)

พร้อมทั้งได้วางแนวทางแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุในระยะยาว โดยแขวงทางหลวงเพชรบุรีได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อติดตั้งไฟสัญญาณจราจร

แต่เนื่องจากผู้ร้องเรียนได้แจ้งว่า ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในระหว่างที่รอการติดตั้งไฟสัญญาณจราจร จึงอยากให้หน่วยงานมาติดตั้งป้ายเตือนก่อนถึงทางแยกเพิ่มเติม  สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้ประสานไปยังแขวงทางหลวงชนบทเพชรบุรี เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการติดตั้งป้ายเพิ่มเติมในถนนสายรอง (ถนนเลียบคลองชลประทาน) ซึ่งปัจจุบันแขวงทางหลวงชนบทเพชรบุรีได้ดำเนินการปรับปรุงเส้นจราจรโดยการทาสีใหม่ พร้อมทำความสะอาดถนนให้สวยงาม ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณข้างทางก่อนถึงสี่แยก เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นสี่แยก ได้อย่างชัดเจน และติดตั้งป้ายเตือนก่อนถึงสี่แยกด้วย

ต่อมา แขวงทางหลวงเพชรบุรี ได้แจ้งว่างบประมาณการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรบริเวณแยกหุบกะพง ได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากรัฐสภาแล้ว และแขวงทางหลวงเพชรบุรีได้ดำเนินการติดตั้งสัญญาณไฟจราจร    เสร็จเรียบร้อยและได้ส่งมอบงานให้แขวงทางหลวงเพชรบุรีแล้ว

ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 2 และคณะเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ประชุมติดตามเรื่องร้องเรียน ณ แขวงทางหลวงเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับแขวงทางหลวงเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง และได้ตรวจสอบการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรบริเวณแยกคันคลองชลประทาน หุบกะพง ที่ กม. 0+600 ทางหลวงหมายเลข 3203(0100) ตอนทางเข้าโครงการพระราชประสงค์หุบกะพง  พบว่ามีการติดตั้งและเปิดใช้ไฟสัญญาณจราจรแล้ว และได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวปฏิบัติ ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดต่อไป