กรณี พิจารณาประเมินผลงานเพื่อเลื่อนและแต่งตั้งพนักงานเทศบาล ล่าช้ากว่า 2 ปี

ผู้ร้องเรียนได้ส่งผลงานเพื่อขอรับการประเมินเพื่อเลื่อนและแต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งนิติกรชำนาญการพิเศษโดยได้จัดส่งผลงานผ่านสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเลยไปยังสำนักงานคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล (สำนักงาน ก.ท.) เพื่อเสนอให้คณะกรรมการประเมินผลงานพิจารณา และท้องถิ่นจังหวัดเลยได้ลงนามรับผลงานดังกล่าวเมื่อปี 2560 จนถึงเวลาที่ร้องเรียนคือช่วงกลางปี 2562 ยังไม่มีความคืบหน้าผู้ร้องเรียนเห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำหนดแนวทางและมาตรการในการประเมินผลงานให้คณะกรรมการประเมินผลงานได้ดำเนินการอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาการประเมินผลงาน แม้การออกคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง นิติกร ชำนาญการพิเศษ มีผลย้อนหลังนับแต่วันเสนอผลงานก็ตามแต่เจตนารมณ์ในการประเมินให้เลื่อนและแต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น เพื่อให้พนักงานเทศบาลมีความก้าวหน้าในตำแหน่งของตน ภายในกรอบระยะเวลาอันสมควรนับแต่มีการเสนอผลงาน มิใช่ปล่อยให้ระยะเวลาผ่านล่วงเลยไปโดยอ้างว่า ถึงอย่างไรก็มีผลย้อนหลัง ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อผู้ขอรับการประเมิน ทำให้ขาดโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่ราชการและโอกาสในการที่จะปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง แล้วพบว่า

  1. การคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้นนอกระดับควบขั้นสูงของสายงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสายงานนิติการ ให้ดำเนินการด้วยวิธีการประเมินผลงาน เมื่อคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเห็นชอบการปรับปรุงตำแหน่งนั้นแล้ว โดยเทศบาลจะแต่งตั้งคณะกรรมการ จำนวน 3 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันการศึกษา ส่วนราชการในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง  โดยสำนักงานคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล (ก.ท.) ได้รับผลงานของผู้ร้องเรียน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 และได้ดำเนินกระบวนการที่เกี่ยวข้องตามรูปแบบที่กำหนด
  1. สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดได้ส่งผลงานให้คณะกรรมการประเมินผลงาน  ซึ่งในการตรวจประเมินของคณะกรรมการประเมินผลงาน ไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาการประเมินผลงานไว้ ระยะเวลาการประเมินผลงานของผู้ร้องเรียนที่ล่าช้าอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการประเมินผลงาน โดยคณะกรรมการประเมินผลงานจะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันการศึกษาของรัฐหรือส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะงานตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง โดยกรณีส่วนใหญ่หากกรรมการยังไม่มีการส่งผลการประเมินก็จะมีการประสานทางโทรศัพท์เพื่อติดตามขอทราบผลประเมินและขอความอนุเคราะห์ประเมินผลงานให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน หากติดภารกิจไม่สามารถประเมินผลงานเสร็จได้ทันตามกำหนดขอให้แจ้งสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเพื่อเปลี่ยนให้คณะกรรมการประเมินผลงานท่านอื่นประเมินแทน ซึ่งบางครั้งก็จะประสบปัญหาจนถึงขนาดกรรมการประเมินผลงานปฏิเสธการอ่านผลงานจนส่งผลกระทบกับผู้ขอรับการประเมิน

ส่วนในกรณีของผู้ร้องเรียน เทศบาลเมืองวังสะพุง ได้มีคำสั่งที่ 9/2564 ลงวันที่ 11 มกราคม 2564 แต่งตั้งให้ผู้ร้องเรียนดำรงตำแหน่งนิติกรชำนาญการพิเศษ โดยให้มีผลย้อนไปตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560

ผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ร้องเรียนได้รับการแก้ไขความเดือดร้อนอย่างเหมาะสมแล้ว จึงวินิจฉัยยุติเรื่อง ทั้งนี้ ท่านประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน(นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต) ได้ให้ตรวจสอบเพิ่มเติมว่า อบต. อบจ. มีการประสบปัญหาในเรื่องดังกล่าวหรือไม่  มีระเบียบกฎหมายในเรื่องดังกล่าวอย่างไร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีปัญหาเช่นเดียวกัน ใช้ระเบียบกฎหมายเดียวกัน ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินจึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเห็นว่าปัญหาความล่าช้าในการตรวจประเมินผลงานของผู้ร้องเรียนอันเนื่องมาจากเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการประเมินผลงาน โดยมิได้มีระเบียบกฎหมายกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการประเมินผลงานไว้ ซึ่งการประสานขอความอนุเคราะห์คณะกรรมการประเมินผลงานในการประเมินผลงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่อาจแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม

ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงมีข้อเสนอแนะให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาดำเนินการแก้ไขประกาศคณะกรรมการกลางข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น ตำแหน่งประเภททั่วไป และประเภทวิชาการให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น พ.ศ. ๒๕๖๑ (ก.อบจ. ก.ท. ก.อบต.) ในทุกสายงาน โดยกำหนดกรอบระยะเวลาประเมินของคณะกรรมการประเมินผลงานที่ชัดเจน ในการประเมินผลงานของผู้ขอประเมิน รวมทั้งกรอบระยะเวลาการพิจารณาผลงานของผู้ขอประเมินให้แล้วเสร็จทั้งกระบวนการ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและไม่ปิดกั้นโอกาสความเจริญเติบโตของ ผู้ขอประเมินต่อไป