กรณีการติดตามผลการดำเนินคดีจราจร จนทำให้ผู้ร้องเรียนได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

     เรื่องร้องเรียนดังกล่าวเกิดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ผู้ร้องเรียนได้แจ้งว่า บุตรสาวของผู้ร้องเรียนได้ถูกถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) ของบุตรสาวผู้ร้องเรียน บริเวณถนนสามพร้าว – อุดรธานี ตำบล  สามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ล้มได้รับความเสียหายและบาดเจ็บสาหัส  ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุดรธานี ทั้งนี้ ฝ่ายผู้ร้องเรียได้ไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี

     ต่อมาคู่กรณีได้ทราบเหตุในภายหลัง จึงได้มาพบพนักงานสอบสวน (ตำรวจ) เพื่อรับทราบพฤติการณ์และข้อเท็จจริง รวมถึงเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมทั้งได้มอบเงินให้ฝ่ายผู้ร้องเรียน เป็นเงินสด 20,000 บาท เพื่อเปนค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาอาการบาดเจ็บ และผู้ร้องเรียนยอมรับเงินจำนวนดังกล่าว โดยพนักงานสอบสวน สถานีภูธรเมืองอุดรธานีได้แจ้งข้อกล่าวหากับคู่กรณีที่ขับรถกระบะ ในความผิดข้อหาบรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย และผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส  โดยคู่กรณีเจ้าของรถกระบะได้รับทราบและเข้าใจข้อกล่าวหา และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และในส่วนค่าเสียหายทางคู่กรณีจะซ่อมแซมรถจักรยายนต์ของบุตรสาวผู้ร้องเรียนให้อยู่ในสภาพเดิม สำหรับในส่วนค่าอนามัยและค่าสินไหมทดแทนนั้น คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายจะได้เจรจากันภายหลัง  เมื่อบุตรสาวของผู้ร้องเรียนรักษาตัวหายดีแล้ว ซึ่งทั้งหมดพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกไว้ในบันทึกประจำวัน

     ต่อมา ผู้ร้องเรียนได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากผู้ร้องประสงค์ให้มีการดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องหา แต่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี แจ้งผู้ร้องเรียนว่า คดีจราจรดังกล่าวผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และพนักงานสอบสวนทำการเปรียบเทียบปรับ ทำให้คดีเลิกกันตามกฎหมายแล้ว ซึ่งผู้ร้องเรียนเห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นความผิดอาญาที่ไม่สามารถเปรียบเทียบปรับได้ตามกฎหมาย พร้อมทั้งขอทราบผลคดีดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการแจ้งผลคดี

     ผู้ร้องเรียนจึงได้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อขอความเป็นธรรม ขอให้แสวงหาข้อเท็จจริง กรณีพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ดำเนินคดีจราจรที่บุตรสาวของผู้ร้องเรียนเป็นผู้เสียหาย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่แจ้งผลการดำเนินคดีดังกล่าวตามที่ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมและ ขอทราบผลคดี พร้อมขอให้เร่งรัดดำเนินคดีให้ถูกต้องตามกฎหมาย และภายหลัง ผู้ร้องเรียนได้ฟ้องคดีแพ่งต่อศาลจังหวัดอุดรธานี ด้วย

     ต่อมา ศาลจังหวัดอุดรธานีได้มีคำพิพากษาสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คู่กรณี เจ้าของรถกระบะชดใช้สินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายผู้ร้องเรียน เป็นเงิน 250,000 บาท และคดีถึงที่สุดแล้ว ซึ่งคู่กรณีเจ้าของรถกระบะได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ร้องเรียน เบื้องต้น เป็นเงิน  2,000 บาท  แต่หลังจากนั้น ผู้ร้องเรียนได้แจ้งว่า ไม่ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนจากคู่กรณีแต่อย่างใด

     ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้มีหนังสือถึงสถานีตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าว  ซึ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เห็นว่า พฤติการณ์ของพนักงานสอบสวนมีมูลอันเป็นความผิดวินัย จึงได้ขอให้สถานีตำรวจภูธรอุดรธานีได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และให้เจ้าหน้าที่สอบสวนผู้รับผิดชอบสำนวนติดตามผลการดำเนินคดีและประสานงานไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานีให้ส่งสำนวนไปยังอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุดรธานี ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ได้แจ้งว่าดำเนินการส่งหนังสือขออนุญาตฟ้องคดีพร้อมสำนวนการสอบสวนคดีจราจร ไปยังอัยการคดีศาลแขวงจังหวัดอุดรธานีแล้ว

     เจ้าหน้าที่สอบสวนของสำนักงานได้ตรวจสอบไปยังอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุดรธานี และได้แจ้งว่ายังไม่ได้รับสำนวนการสอบสวนในคดีดังกล่าวแต่อย่างใด ต่อมาสถานีตำรวจภูธรอุดรธานีได้ชี้แจงเพิ่มเติว่า พนักงานสอบสวนสามารถส่งสำนวนได้ทัน ตามกำหนดผัดฟ้อง ด้วยเหตุที่ยังไม่ได้รับรายงานชันสูตรบาดแผลจากโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเอกสารที่สำคัญในคดี เนื่องจากผู้บาดเจ็บในคดียังมีการรักษาตัวต่อเนื่องเรื่อยมา และแพทย์ผู้ออกรายงานไปศึกษาต่อซึ่งผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาข้อบกพร่อง และได้ว่ากล่าวตักเตือนพนักงานสอบสวนแล้ว

     ​​เจ้าหน้าที่สอบสวนผู้รับผิดชอบสำนวนได้รายงานผลการติดตามการดำเนินคดีของผู้ร้องเรียนและ ได้ประสานงานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ขอให้เร่งรัดติดตามให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ดำเนินการส่งสำนวนผลการสอบสวนเพิ่มเติมไปยังสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงจังหวัดอุดรธานี อีกทางหนึ่ง และได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่สอบสวนผู้รับผิดชอบสำนวนติดตามผลการดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานีอีกครั้งหนึ่ง โดยปัจจุบันได้เข้าสู่ขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรมแล้ว ซึ่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุดรธานีมีความเห็นให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมจึงเป็นขั้นตอนระหว่างพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวน กรณีนี้ถือได้ว่าพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานีได้ปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว จึงเห็นว่าควรยุติเรื่องร้องเรียนในเรื่องนี้ และให้มีข้อเสนอแนะให้สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี กำชับให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี เร่งรัดดำเนินคดีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อมิให้เกิดการร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก

     จากการติดตามคดีภายหลังมีคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิศาลแขวงอุดรธานีได้มีคำพิพากษาให้ ผู้ร้องเรียนได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงินจำนวน 156,000 บาท และผู้ร้องเรียนได้รับการเยียวยาจากผู้กระทำผิดแล้ว จึงได้มีหนังสือถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอขอบคุณและแจ้งผลการดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดิน (รองศาสตราจารย์อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์) ได้มีดำริให้เรื่องร้องเรียนดังกล่าวเป็นตัวอย่างกรณีศึกษา ในเรื่องการติดตามคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งถึงแม้ว่ากระบวนการจะอยู่ในชั้นศาลแล้ว แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ยังติดตาม และประสานงานพร้อมรายงานความคืบหน้าในกรณีต่าง ๆ ให้ผู้ร้องได้รับการแก้ไขความเดือดร้อนจนเป็นที่พอใจ