กรณีการแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศจากการประกอบกิจการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้

ผู้ร้องเรียนร้องเรียนว่า สถานประกอบการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ตั้งอยู่ชุมชนแห่งหนึ่ง ตำบลนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบกิจการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ เช่น มีกลิ่นเหม็นสารเคมีจากการทาสีไม้และมีฝุ่นละอองจากการผลิตเฟอร์นิเจอร์ อีกทั้งผู้ร้องเรียนเห็นว่า สถานประกอบการดังกล่าวอาจจะประกอบกิจการไม่เป็นไปตามกฎหมายโรงงาน แต่เทศบาลเมืองนาสาร ไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทำให้ผู้ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อน

ผู้ตรวจการแผ่นดินได้แสวงหาข้อเท็จจริง โดยปรากฏว่า สถานที่ที่มีการร้องเรียนประกอบกิจการทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีคนงาน 4 คน และใช้เครื่องจักรรวมแรงม้าทั้งหมด 21.89 แรงม้า โดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจากเทศบาลเมืองนาสาร แต่ไม่เข้าลักษณะเป็นโรงงานโดยสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่และตรวจสอบข้อเท็จจริง

สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับผู้แทนอำเภอ บ้านนาสาร เทศบาลเมืองนาสารปรากฏว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ประกอบกิจการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน  สถานที่ดังกล่าวได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามเทศบัญญัติเทศบาลเมืองนาสาร เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2545 ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้แนะนำแนวทางและมาตรการแก้ไข โดยบริเวณที่มีการทาสารเคลือบไม้ให้มีวัสดุปิดกั้นและให้ปิดประตูหลังของบริเวณดังกล่าวให้มิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นรบกวนบ้านข้างเคียง บริเวณที่มีการประกอบ เลื่อย และไสกบไม้ ให้มีผ้าหรือวัสดุปิดกั้นการฟุ้งกระจายของเศษวัสดุ โดยให้ติดตั้งให้ครอบคลุมพื้นที่ ปิดกั้นไม่ให้มีช่องว่างอันเป็นช่องทางฟุ้งกระจายของฝุ่นเพื่อไม่ให้รบกวนบ้านข้างเคียง การกำจัดภาชนะใส่สารเคลือบไม้ให้กำจัดให้ถูกวิธีโดยไม่ให้ทิ้งลงถังขยะของเทศบาล

ต่อมา ผู้ร้องเรียนแจ้งข้อเท็จจริงเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตสรุปความได้ว่า สถานประกอบการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้มีข้อตกลงกับเทศบาลเมืองนาสารและอำเภอบ้านนาสารว่าจะย้ายออกจากสถานที่ ที่เกิดเหตุ และปัจจุบันสถานประกอบการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้ย้ายออกไปเรียบร้อยแล้ว ผู้ร้องเรียนไม่ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นสารเคมีและฝุ่นละอองจากการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้อีกต่อไป ทั้งนี้ขอขอบคุณผู้ตรวจการแผ่นดินที่ทำให้ความเดือดร้อนดังกล่าวจบลงด้วยดี

ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า เรื่องร้องเรียนนี้ ผู้ร้องเรียนได้รับการแก้ไขความเดือดร้อนอย่างเหมาะสมแล้ว จึงวินิจฉัยยุติเรื่องร้องเรียน