สผผ. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น. นายกมลธรรม วาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนางนุจรีย์ ศรีภูธร ผู้อำนวยการส่วนสอบสวน 2 สำนักสอบสวน 2 และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ร่วมกับผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนอำเภอลาดบัวหลวง ผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลคู้สลอด ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้ร้องเรียน กรณีองค์การบริหารส่วนตำบลคู้สลอดดำเนินการจ้างบริษัทผู้รับจ้างถมดินและเทพื้นคอนกรีตทับลำรางสาธารณประโยชน์ที่ใช้เพื่อการเกษตรบนที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำและทำให้ผู้ร้องเรียนและเกษตรกรในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน  ณ บริเวณที่มีการร้องเรียน หมู่ที่ 9 ตำบลคู้สลอด อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ผลการหารือสรุปได้ว่า องค์การบริหารส่วนตำบลคู้สลอดได้ขุดลอกทางระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะดำเนินการรังวัดเขตที่ดินที่อนุญาตให้องค์การบริหารส่วนตำบลคู้สลอดก่อสร้างระบบน้ำประปาบนที่ดินของ ส.ป.ก. และแจ้งผลไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลคู้สลอด หากมีส่วนที่เกินจากแนวเขตที่ได้รับอนุญาต องค์การบริหารส่วนตำบลคู้สลอดจะได้ดำเนินการขุดดินส่วนที่เกินออกไป ซึ่งผู้ร้องเรียนได้รับทราบและพึงพอใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

 

ต่อมาในเวลา 14.30 น. นายกมลธรรม วาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนางนุจรีย์ ศรีภูธร ผู้อำนวยการส่วนสอบสวน 2 สำนักสอบสวน 2 และคณะ เข้าร่วมรับฟังสภาพปัญหาและข้อเท็จจริงจากผู้ร้องเรียนและคณะ กรณีร้องเรียนว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอวังน้อย และเทศบาลเมืองลำตาเสา ไม่ตรวจสอบการประกอบกิจการขุดดินในพื้นที่อำเภอวังน้อยที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียที่มีค่าความเค็มสูง ลงสู่คลองสาธารณะ เป็นเหตุให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ณ โดมอเนกประสงค์ชุมชน หมู่ที่ 8 ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมรับฟัง พร้อมชี้แจงผลการตรวจสอบปรากฏว่า จากการตรวจสอบขณะประกอบกิจการไม่พบการระบายน้ำลงสู่คลองสาธารณะ แต่พบร่องรอยการระบายน้ำ และผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำปรากฏว่าน้ำบางจุดมีความเค็มเกินมาตรฐาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงแจ้งให้ผู้ประกอบการหยุดการปล่อยน้ำเสียออกสู่คลองสาธารณะ และผู้แทนเกษตรอำเภอวังน้อยได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ร้องเรียนในการลดความเค็มของที่นา ทั้งนี้ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ร้องเรียนอย่างยั่งยืน