กรณี การแก้ไขปัญหาสายไฟฟ้าและสายสื่อสารรุกล้ำมาในที่ดินของผู้ร้องเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินช่วยแก้ไขปัญหาที่มีการห้ติดตั้งสายไฟฟ้าและสายสื่อสารรุกล้ำมาในที่ดินของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้ร้องเรียน     ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์

ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ให้หน่วยงานี่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริง สรุปได้ว่า จากการตรวจสอบที่ดินผืนดังกล่าวที่มีการติดตั้งเสาไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันที่ดินมีลักษณะเป็นสวน พบว่า มีสายไฟฟ้าและสายสื่อสารอยู่ในพื้นที่ของผู้ใช้ไฟ เป็นระบบจําหน่ายแรงสูง 22 kV 3 เฟส ชนิดสายเปลือย 50 ตารามิลลิเมตร ระยะห่างระหว่างเสาไฟฟ้า 100 เมตร ซึ่งระบบจำหน่ายบริเวณดังกล่าวได้อยู่ในแผนปรับปรุง เสริมประสิทธิภาพในระบบจำหน่ายปรับปรุงสายขนาด 50 ตารามิลลิเมตร ซึ่งมีการอนุมัติเริ่มก่อสร้างและแล้วเสร็จภายใน       เดือนมกราคม 2566 ทั้งนี้ได้ชี้แจง ผู้ร้องเรียนเป็นที่เข้าใจเรียบร้อยแล้ว ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาและหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ดำเนินการรื้อสายไฟฟ้าและสายสื่อสารออกจากที่ดินของผู้ร้องเรียนเรียบร้อยแล้ว

หลังจากหน่วยงานที่รับผิดชอบได้รื้อสายไฟฟ้าและสายสื่อสารออกจากที่ดินของผู้ร้องเรียนแล้ว ผู้ร้องเรียนมีหนังสือมาขอบคุณสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินที่ช่วยแก้ไขความเดือดร้อนให้กับผู้ร้องเรียน

ดังนั้น ปัญหาตามคำร้องเรียนในเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ผู้ร้องเรียนได้รับการแก้ไขความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมอย่างเหมาะสมแล้ว ตามมาตรา 37 (6) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560  อาศัยเหตุดังกล่าวข้างต้น จึงวินิจฉัยยุติเรื่องร้องเรียนในเรื่องนี้ตามมาตรา 37วรรคสอง  แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560