กรณีดำเนินการกับผู้บุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินบริเวณท้ายซอยลาดกระบัง

 

            ผู้ร้องเรียนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ บริเวณท้ายซอยลาดกระบัง 1/8 ได้เข้าได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีกลุ่มบุคคลเป็นชายฉกรรจ์บุกรุกเข้ามาปลูกสร้างที่อยู่อาศัยและเลี้ยงไก่ชนจำนวนมาก โดยไม่ได้รับอนุญาตบนที่ดินเป็นลำรางสาธารณประโยชน์เป็นที่สาธารณสมบัติของส่วนรวม เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งติดกับที่ดินของผู้ร้องเรียน และการกระทำของกลุ่มผู้บุกรุกทำให้ผู้ร้องเรียนและประชาชนทั่วไปไม่สามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินอันเป็นสาธารณประโยชน์ดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ได้ และก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้ร้องเรียนและผู้อาศัยอยู่บริเวณข้างเคียง สร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเนื่องจากอาจใช้เป็นแหล่งมั่วสุมเล่นการพนันหรือการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยครอบครัวของผู้ร้องเรียนได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง

          ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดกลุ่มผู้บุกรุกที่ดินมาเพื่อเจรจาหาข้อยุติ โดยกลุ่มผู้บุกรุกได้เรียกค่าเสียหายจากมารดาของผู้ร้องเรียนเป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท ต่อมาได้ปรับลดเหลือ 6 ล้านบาท เพื่อแลกกับการย้ายออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว โดยผู้ร้องเรียนเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเนื่องจากเป็นที่ดินลำรางสาธารณประโยชน์ เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับประชาชนใช้ร่วมกันและไม่มีผู้ใดที่จะสามารถแสวงหาประโยชน์ส่วนตนได้ ภายหลังจากที่ผู้ร้องเรียนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานเขตลาดกระบังแล้ว ผู้ร้องเรียนและครอบครัวได้ดำเนินการติดตามผลการร้องเรียนจำนวนหลายครั้ง แต่สำนักงานเขตลาดกระบังไม่ดำเนินการตามข้อร้องเรียนแต่อย่างใด ทำให้ผู้ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อน ภายหลังต่อมาผู้ร้องก็ร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน

          สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีหนังสือถึงสำนักงานเขตลาดกระบัง ข้อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ในวันที่ 22 มีนาคม 2565 สำนักงานเขตลาดกระบัง มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนได้ความว่า สำนักงานเขตลาดกระบังได้ดำเนินการตรวจสอบบริเวณลำรางสาธารณะที่มีการร้องเรียนพบว่ามีผู้รุกล้ำลำรางสาธารณะยินยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำรางสาธารณะจำนวน ๓ ราย และยังมีผู้รุกล้ำลำรางสาธารณะจำนวน 4 ราย ที่ไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง สำนักงานเขตลาดกระบังอยู่ระหว่างดำเนินการทำเรื่องขอประมาณการค่าใช้จ่ายในการรังวัดต่อสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาลาดกระบัง เพื่อตรวจสอบตำแหน่งลำรางสาธารณะที่ถูกต้องชัดเจน และจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกลำรางสาธารณะที่ยังไม่ดำเนินการรื้อถอน ทั้งนี้ สำนักงานเขตลาดกระบังจะรายงานความคืบหน้าในเบื้องต้นมายังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป และในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินผู้รับผิดชอบเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ว่า สำนักงานเขตลาดกระบังได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกลำรางสาธารณะซึ่งยังไม่ดำเนินการรื้อถอนแล้ว โดยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำ ทั้งนี้ สำนักงานเขตลาดกระบังจะจัดทำหนังสือติดตามผลการดำเนินคดีต่อสถานีตำรวจนครบาลลาดกระบังทุก 30 วัน

            เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวนและคณะได้เดินทางไปลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ที่มีการร้องเรียนและประชุมพิจารณาเรื่องร้องเรียนร่วมกับกรุงเทพมหานครและสำนักงานเขตลาดกระบัง สรุปได้ว่า สำนักงานเขตลาดกระบังได้ดำเนินการสำรวจลำรางสาธารณประโยชน์บริเวณซอยลาดกระบัง 1/8 ปรากฏว่าบางบริเวณของลำรางสาธารณประโยชน์ดังกล่าวมีสภาพไม่ชัดเจนจึงต้อง ทำการรังวัดตรวจสอบแนวเขตลำรางสาธารณประโยชน์ ซึ่งสำนักงานเขตลาดกระบังได้มีหนังสือประสานสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาลาดกระบัง เพื่อขอรังวัดตรวจสอบแนวเขตลำรางสาธารณประโยชน์โดยได้มีการนัดรังวัดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 แต่ไม่สามารถรังวัดได้เนื่องจากมีเหตุขัดข้องจากผู้รับมอบอำนาจไม่ได้มานำทำการรังวัดตามวันและเวลาที่กำหนด ต่อมาสำนักงานเขตลาดกระบังได้ยื่นขอรังวัดตรวจสอบที่สาธารณะใหม่อีกครั้ง และสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาลาดกระบัง ได้มีหนังสือนัดทำการรังวัดในวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ซึ่งจะทราบผลการรังวัดภายใน 180 วัน ส่วนการการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์ซึ่งอยู่ติดกับโฉนดที่ดินเลขที่ 439 ของผู้ร้องเรียน สำนักงานเขตลาดกระบังได้รวบรวมเอกสารเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อสถานีตำรวจนครบาลลาดกระบังเป็นคดีอาญา ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง ได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจแล้ว และในกรณีการรื้อถอนกรวดหินดินทรายที่ผู้บุกรุกได้เทถมลงในลำรางสาธารณประโยชน์หรือปรับสภาพให้กลับคืนสู่สภาพเดิม นั้น หากสำนักงานเขตลาดกระบังได้รับแจ้งผลการรังวัดและแนวเขตลำรางสาธารณประโยชน์ที่ชัดเจนแล้ว สำนักงานเขตลาดกระบังจะดำเนินการเสนอ
ของบประมาณในการขุดลอกลำรางสาธารณประโยชน์เพื่อปรับสภาพลำรางสาธารณประโยชน์ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมและดำเนินการจัดทำหลักเขตตามแนวลำรางสาธารณประโยชน์ดังกล่าว เพื่อป้องกันมิให้เกิดการบุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์

           ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่ากรณีร้องเรียนว่าสำนักงานเขตลาดกระบังไม่ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้บุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน บริเวณท้ายซอยลาดกระบัง 1/8 ซึ่งอยู่ติดกับโฉนดที่ดินเลขที่ 439 ของผู้ร้องเรียน เป็นเหตุให้ผู้ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อน นั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่า สำนักงานเขตลาดกระบังได้ตรวจสอบข้อมูลแผนที่ระวางกรมที่ดิน ปรากฏว่าบริเวณตามข้อร้องเรียนเป็นลำรางสาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งบางบริเวณของลำรางสาธารณประโยชน์ดังกล่าวมีสภาพไม่ชัดเจน สำนักงานเขตลาดกระบังจึงขอให้สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาลาดกระบัง รังวัดตรวจสอบแนวเขตลำรางสาธารณประโยชน์ดังกล่าว และสำนักงานเขตลาดกระบังได้ดำเนินการตรวจสอบบริเวณลำรางสาธารณประโยชน์ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินโฉนดเลขที่ 439 ของผู้ร้องเรียนปรากฏว่า มีการก่อสร้างและใช้ประโยชน์ในบริเวณดังกล่าวจริง สำนักงาน
เขตลาดกระบังจึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้บุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากบริเวณดังกล่าว แต่ผู้บุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์ไม่ดำเนินการรื้อถอนแต่อย่างใด สำนักงานเขตลาดกระบังจึงแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์ในความผิดฐานปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ รุกล้ำที่สาธารณ สมบัติของแผ่นดิน โดยไม่มีสิทธิ หรือไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้ เพื่อสาธารณะประโยชน์ สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง และพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง
ได้รับไว้เป็นคดีอาญา

           ต่อมาพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง ได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาดำเนินการแล้ว ดังนั้น ปัญหาตามคำร้องเรียนในเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องที่ผู้ร้องเรียนได้รับการแก้ไขความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมอย่างเหมาะสมแล้ว หากสำนักงานเขตลาดกระบังได้รับแจ้งผลการรังวัดและแนวเขตลำรางสาธารณประโยชน์ที่ถูกต้องและชัดเจนจากสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาลาดกระบังแล้วขอให้สำนักงานเขตลาดกระบัง จัดทำโครงการขุดลอกลำรางสาธารณประโยชน์เพื่อปรับสภาพลำรางสาธารณประโยชน์ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และจัดทำหลักเขตบริเวณลำรางสาธารณประโยชน์ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันมิให้เกิดการบุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์ และเพื่อรักษาไว้ซึ่งประโยชน์ร่วมกันของประชาชนตามวัตถุประสงค์ที่จัดให้มีที่ดินดังกล่าว

          ทั้งนี้ ขอให้สำนักงานเขตลาดกระบังรายงานความคืบหน้าในการพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบในโอกาสแรกด้วยกรณีสำนักงานเขตลาดกระบังได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์ ขอให้ผู้อำนวยการเขตลาดกระบังมีหนังสือประสานติดตามขอทราบผลคดีจากสถานีตำรวจนครบาลลาดกระบังทุก 30 วัน และเมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้กระทำความผิดแล้ว ขอให้สำนักงานเขตลาดกระบังติดตามผลการบังคับคดีดังกล่าวให้เป็นไปตามคำพิพากษา โดยปฏิบัติตามหนังสือสำนักกฎหมายและคดี ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 เรื่องรายงานผลการประชุมการกำหนดแนวทางการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่สาธารณะอย่างเคร่งครัดต่อไป