กรณี การเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง

ผู้ตรวจการแผ่นดินแก้ไขปัญหา กรณี การเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ไม่จ่ายเงินรางวัลให้ผู้ร้องเรียนและคณะจากการทำงานในกองงานเบเกอรี่

ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง มีอำนาจควบคุมผู้ต้องขังอายุระหว่าง 18 ถึง 25 ปี ที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 30 ปี และเป็นคดีที่เสร็จเด็ดขาดแล้ว พร้อมทั้งมีหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังวัยหนุ่ม โดยเน้นให้การศึกษาอบรมและฝึกวิชาชีพ เพื่อฟื้นฟูแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรมให้ถูกต้องตามหลักทัณฑวิทยา และนโยบายของกรมราชทัณฑ์

ดังนั้น เพื่อช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณค่า กรมราชทัณฑ์ได้จัดให้มีโครงการฝึกอาชีพและเตรียมความพร้อมให้กับผู้ต้องขังโดยฝึกอาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการ  ของผู้ต้องขังและตลาดแรงงาน เพื่อนำทักษะที่เรียนรู้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ หลังพ้นโทษ

กองงานเบเกอรี่เป็นอีกหนึ่งโครงการฝึกอาชีพของทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ซึ่งดำเนินกิจการปรุงอาหารและผลิตเบเกอรี่เพื่อจำหน่าย ที่นอกจากจะฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนให้กับกองงานและนำผลกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมาคิดคำนวณ  เพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลตอบแทนให้แก่ผู้ต้องขังที่อยู่ในคณะทำงานได้อีกด้วย ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัล ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 และข้อ 7(1) แห่งระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยเงินผลพลอยได้จากการดำเนินงานฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง พ.ศ. 2563

ผู้ร้องเรียนและคณะเป็นอดีตผู้ต้องขัง กองงานเบเกอรีของทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง อ้างว่า ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางไม่จ่ายเงินรางวัลให้กับผู้ร้องเรียนและคณะ จำนวน 18 คน ทำให้ผู้ร้องเรียนและคณะได้รับความเดือดร้อน

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลถือปฏิบัติตามาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2560 ซึ่งบัญยัติว่า ผู้ต้องขังไม่มีสิทธิได้ค่าจ้างจากการงานที่ได้ทำ แต่ในกรณีที่การงานที่ได้ทำนั้นก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งคำนวณเป็นราคาเงินได้ ผู้ต้องขังอาจได้รับเงินรางวัลตอบแทนจากการงานนั้นได้

การคำนวณรายได้เป็นราคาเงินและการจ่ายเงินรางวัลให้เป็นไปตามหลักเกณฑื วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ประกอบด้วยข้อ 7(1) แห่งระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยเงินผลพลอยได้จากการดำเนินงานฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง พ.ศ. 2563 กำหนดให้ เงินพลอยได้ ร้อยละ 95 ให้เรือนจำเก็บไว้เป็นทุนหมุนเวียน เพื่อใช้จ่ายในการดำเนินการฝึกวิชาชีพและกิจการที่เป็นประโยชน์โยตรง หรือต่อเนื่องกับการฝึกวิชาชีพ และจ่ายเป็นเงินรางวัลให้แก่ผู้ต้องขังและเจ้าพนักงานเรือนจำ

ด้วยผลการดำเนินงานกิจกราปรุงอาหารและผลิตเบเกอรี่เพื่อจำหน่ายของทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางมีผลการดำเนินงาที่ยังไม่ได้ผลกำไรและมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง จึงไม่พิจารณาจ่ายเงินรางวัลจากการจำหน่ายอาหารและเบเกอรี่ให้แก่ผู้ต้องขัง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นมา จนเป็นเหตุให้อดีตผู้ต้องขังและคณะจำนวน 18 คน ที่เคยได้รับคัดเลือกมาทำงานผลิตเบเกอรี่เพื่อจำหน่ายในช่วงเวลานั้น ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน

ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงได้แสวงหาข้อเท็จจริง พร้อมร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าว  ซึ่งผลการประชุมสรุปได้ว่าทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางจะพิจารณาจ่ายเงินรางวัลให้ผู้ร้องเรียนและคณะ รวมทั้งผู้ต้องขังที่มีสิทธิได้รับเงินรางวัลจากการทำงานในกองงานเบเกอรี่  โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด พร้อมแจ้งให้ผู้ร้องเรียนและคณะทราบ เพื่อติดต่อรับเงินรางวัลตามสิทธิต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องร้องเรียนในลักษณะเช่นนี้อีก ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้เสนอแนะให้กรมราชทัณฑ์เร่งรัดดำเนินการกำหนดแนวทางปฏิบัติในการคำนวณและหลักเกณฑ์การจ่ายเงินผลพลอยได้ โดยให้พิจารณาจ่ายเป็นเงินรางวัลให้ผู้ต้องขังเป็นลำดับแรกให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และแจ้งให้ทัณฑสถานทั่วประเทศทราบ เพื่อถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน รวมทั้งให้กรมราชทัณฑ์กำกับดูแลให้ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางเร่งรัดการจ่ายเงิน ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมรายงานผลการดำเนินการให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทราบต่อไป

ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อความเป็นธรรมของแผ่นดิน