วันนี้ (6 กรกฎาคม 2566) ณ โรงเรียนต้นแก้วผดุงพิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยพันตำรวจเอก จิระวุฒิ ตัณฑศรี ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทิฆัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่เชียงใหม่เดินหน้า“มาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับ – ส่งนักเรียน” สร้างความอุ่นใจให้พ่อแม่ ตรวจเยี่ยมโรงเรียนต้นแก้วผดุงพิทยาลัย ต้นแบบ TK safety road zone ภาคเหนือ โดยมี นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ และนายมานิช ถาอ้าย ผู้อำนวยการสถานศึกษา พร้อมคณะร่วมให้การต้อนรับ
ปัจจุบันผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังจัดทำข้อเสนอแนะต่อครม.เพื่อแก้ไขปัญหาที่ก่อให้เกิดความสูญเสียอันเนื่องมาจากการประกอบกิจการรถรับ-ส่งนักเรียน ทั้งอุบัติเหตุ ลืมเด็กในรถ มาตรฐานการขับขี่ การดัดแปลงรถเพื่อบรรทุกเกินขนาด และขาดความรับผิดชอบของการบริการที่ปลอดภัย ซึ่งทุกปัญหาล้วนมีทางออก แต่ต้องได้รับความร่วมมือกันอย่างจริงจังทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคีเครือข่าย สำหรับผู้ตรวจการแผ่นดินได้ทำหน้าที่รวบรวมสภาพปัญหาพร้อมจัดทำข้อเสนอแนะต่อทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ซึ่งขณะนี้ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลทั่วทุกภูมิภาคเพื่อรวบรวมปัญหาจากโรงเรียนภาครัฐ ภาคเอกชน สำนักงานขนส่งทางบก องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางนำไปสู่ความสำเร็จของการศึกษาเชิงระบบ เรื่อง“มาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับ – ส่งนักเรียน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการบริหารจัดการและการติดตามของหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างหน่วยงานหลักเพื่อการรับผิดชอบดูแล พร้อมทั้งกำหนดมาตรฐานเพื่อกำกับดูแล รวมทั้งผลักดันการรณรงค์ให้ความรู้แก่ผู้ขับรถและผู้ปกครองอย่างต่อเนื่องสำคัญสุดคือวิธีการเอาตัวรอดของเด็กนักเรียนหากตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ ได้เลือกโรงเรียนต้นแก้วผดุงพิทยาลัย อำเภอหางดง สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีนักเรียน ครูและบุคลากรกว่า 1,500 คน ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีแนวคิดริเริ่มโครงการการพัฒนาแนวทางด้านความปลอดภัยทางถนน (TK safety road zone) ด้วยการร่วมใจกันของผู้ปกครองและชุมชนที่ต้องการสร้างความรู้ และคำนึงถึงความปลอดภัยบนท้องถนน หลีกเลี่ยงอันตรายที่มาจากปัญหาการเดินทางของนักเรียนและครู เพราะส่วนมากมาโดยรถยนต์และจักรยานยนต์ทำให้รถติดบนท้องถนน สภาพถนนมีความคับแคบ และคดเคี้ยว นักเรียนมัธยมมีความคึกคะนอง และขาดวินัยจราจร เพื่อลดปัญหาต่างๆ จึงเกิดโครงการนี้ พร้อมเป้าหมายสวมหมวกนิรภัย 100 % ขณะขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งโรงเรียนได้มีการดำเนินงานเป็นรูปธรรมเห็นผลอย่างชัดเจนมีการออกแบบกิจกรรมที่ตอบโจทย์ 3 หลัก คือ 1.กิจกรรมที่ทำให้รู้/ทำให้เข้าใจ 2.กิจกรรมที่ทำให้เชื่อถือเชื่อมั่น และ3.กิจกรรมที่ต้องลงมือทำและปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายเพื่อปลูกฝังวินัยจราจรให้กับเด็ก และนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนนที่เหมาะสม เพื่อสร้างให้เกิดความปลอดภัยทางถนนในโรงเรียนและชุมชน ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมมากมาย เช่นกิจกรรม “ต้นแก้วปลอดภัย ขับขี่ตามกฎหมายจราจร” อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรโดยความร่วมมือกับ บริษัทฮอนด้า และงานจราจรของสถานีตำรวจภูธรหางดง ให้แก่ นักเรียน ครู บุคลากร ผู้ปกครอง ที่ใช้จักรยานยนต์มาโรงเรียน กิจกรรม “ต้นแก้วปลอดภัย รักษาวินัยจราจร” ร่วมกันเก็บข้อมูลสถิติการสวมหมวกนิรภัยในโรงเรียน ออกแบบมาตรการรักษาวินัยจราจรเพื่อใช้สำหรับโรงเรียนต้นแก้วผดุงพิทยาลัย และประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน และกิจกรรม “ต้นแก้วปลอดภัย บุคคลต้นแบบวินัยจราจร” โดยการยกย่องเชิดชูเกียรติ นักเรียน ครู บุคลากร ผู้ปกครอง ประชาชนในชุมชนคงที่รักษาระเบียบวินัยจราจรได้ในระดับยอดเยี่ยม มุ่งปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเพื่อลดความเสี่ยง กิจกรรม “ต้นแก้วปลอดภัย ห่างไกลถนนอุบัติเหตุ” เป็นกิจกรรมที่ผู้มีส่วนร่วมจะร่วมกันสำรวจพื้นที่จุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมออกแบบการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเบื้องกันโดยความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และลงมือจัดการกับบริเวณจุดเสี่ยง มุ่งสร้างการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนการสอน แบบหน่วยบูรณาการ (Module) เรื่อง ต้นแก้วผดุงพิทยาลัยกับความปลอดภัยทางถนน ( TK safety road zone) จัดการเรียนการสอนในทุกชั้นเรียน โดยโรงเรียนร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เช่น จัดกิจกรรมให้นักเรียนชั้นอนุบาล 1-3 ได้เรียนรู้การขอความช่วยเหลือหากตนเองตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน กรณีติดอยู่ในรถรับ- ส่งนักเรียนด้วย โดยการกดสัญญาณไฟฉุกเฉิน การบีบแตรรถ การเปิดที่ล็อครถ และการหมุนกระจก จะเป็นการป้องกันเรื่องการลืมเด็กไว้ในรถที่เป็นประเด็นปัญหาสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียน ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมต้นแบบแนะนำโรงเรียนทั่วประเทศ นับเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะรวบรวมจัดทำเป็นข้อเสนอแนะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
