สส. 2 ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช

     เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 นายเมธี มั่นคง ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 2 พร้อมด้วยนายอัครพงษ์ เวชยานนท์ ผู้อำนวยการส่วนสอบสวน 3 และคณะเจ้าหน้าที่สำนักสอบสวน 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 เรื่อง ดังนี้
     1. กรณีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอท่าศาลาไม่เร่งรัดดำเนินการขยายเขตไฟฟ้าให้กับประชาชนเพื่อทำการเกษตรกรรมในพื้นที่บริเวณถนนสายห้วยแอ่ง บ้านปากลง หมู่ที่ 6 ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถทำการเกษตรในพื้นที่ได้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับผู้แทนจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลกรุงชิง และผู้แทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอท่าศาลา พบว่าพื้นที่ที่ได้ขอขยายเขตไฟฟ้าสำหรับการเกษตรมีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอท่าศาลาได้ประมาณราคาสำหรับดำเนินการติดตั้งเสาไฟฟ้าแล้ว และสภาพพื้นที่ที่จะดำเนินการปักเสาไฟฟ้ามีถนนสาธารณะสำหรับใช้สัญจรและสามารถให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอท่าศาลาเข้าไปดำเนินการติดตั้งเสาไฟและหม้อแปลงในพื้นที่ได้ แต่อย่างไรก็ดี ขอให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นรวบรวมเอกสารหลักฐานของประชาชนที่ยื่นคำขอขยายเขตไฟฟ้าฯ ให้ครบถ้วนทุกราย และรับรองว่าถนนเส้นทางดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลกรุงชิง และส่งเอกสารหลักฐานให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอท่าศาลาเพื่อดำเนินการสำรวจและติดตั้งขยายเขตไฟฟ้าสำหรับการเกษตรให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป
     2. กรณีองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้นไม่เร่งรัดแก้ไขและปรับปรุงถนนเส้นทางเชื่อมต่อสี่แยกกำนันเหลี้ยง – สายวัดยางใหญ่ ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้มีมาตรฐาน ทำให้ประชาชนที่ใช้ถนนสัญจรในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถใช้ทางสัญจรได้อย่างปลอดภัยเนื่องจากมีน้ำท่วมขัง และไม่สามารถใช้ไฟฟ้าโครงการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าเพื่อการเกษตรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสำหรับทำการเกษตรได้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับผู้แทนจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้น พบว่าสภาพถนนเส้นทางสี่แยกกำนันเหลี้ยง – สายวัดยางใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้นได้ดำเนินการซ่อมแซมพื้นถนนให้ประชาชนสามารถใช้ทางสัญจรได้แล้ว และพื้นที่บริเวณดังกล่าวสามารถใช้ไฟฟ้าได้ทุกครัวเรือน ส่วนเส้นทางบริเวณถนนซอยยายพันซึ่งเชื่อมต่อกับถนนสายกำนันเหลี้ยง – วัดยางใหญ่ มีสภาพเป็นพื้นที่ลุ่ม ซึ่งเป็นที่ดินที่คนในท้องที่ทำการเกษตร เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนทำให้เกิดน้ำท่วมขังในที่ดินบริเวณดังกล่าว ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้นจะดำเนินการแก้ไขให้กับประชาชนในพื้นที่และรายงานให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบต่อไป
     3. กรณีจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอสิชล องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งปรัง และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลทุ่งปรัง ไม่ร่วมพิจารณาแนวทางการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาการขอเช่าพรุน้ำสาธารณประโยชน์ หมู่ที่ 13 ตำบลทุ่งปรัง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้แก่ครอบครัวของผู้ร้องเรียน ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับผู้แทนจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอำเภอสิชล ผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งปรัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 และผู้ร้องเรียน พบว่าผู้ร้องเรียนได้เข้าทำประโยชน์และปลูกต้นปาล์มในพื้นที่ตามคำร้องเรียนเป็นจำนวนกว่า 10 ไร่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันหารือแนวทางการผ่อนผันให้ผู้ร้องเรียนเข้าเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้ทำการปลูกไว้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นต่อไป