สส. 2 ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช

     เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 นายกมลธรรม วาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายเมธี มั่นคง ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 2 นายอัครพงษ์ เวชยานนท์ ผู้อำนวยการส่วนสอบสวน 3 และคณะเจ้าหน้าที่สำนักสอบสวน 2 ประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับนายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้แทนของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4 เรื่อง ดังนี้
     1. กรณีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดแนวเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ จังหวัดนครศรีธรรมราช ทับซ้อนกับที่ดินของประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้แทนจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมมีมติว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขปัญหาเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อประกาศเขตทับที่ทำกินของประชาชนแล้ว โดยได้มีการประชุมมาแล้วอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการพิสูจน์สิทธิของประชาชนที่อยู่เขตพื้นที่พิพาท เพื่อรวบรวมส่งให้เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อส่งเรื่องให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาตรวจสอบรายชื่อเพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรีออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อให้ประชาชนได้มีสิทธิทำกินในป่าอนุรักษ์ต่อไป พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการข้อมูลให้ครบถ้วน และทำความเข้าใจกับผู้ร้องเรียนและประชาชน โดยให้จังหวัดนครศรีธรรมราช และสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ในฐานะตัวแทนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานการดำเนินการแก้ไขปัญหา และกรอบระยะเวลา เป็นลายลักษณ์อักษรให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป
     2. กรณีสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) และการยางแห่งประเทศไทยเขตภาคใต้ตอนกลาง ไม่อนุญาตและมีพฤติการณ์ขัดขวางมิให้ผู้ร้องเรียนและประชาชนเช่าที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าคลองกรุงหยัน) ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช และไม่เร่งรัดดำเนินการจัดสรรที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนจำนวน 472 รายบนพื้นที่ 4,600 ไร่ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับผู้แทนจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมมีมติว่าการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินกรณีกลุ่มผู้ร้องเรียนนั้น สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กรมป่าไม้ อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาพื้นที่เป้าหมายเพื่อรองรับกลุ่มผู้ร้องเรียน และจังหวัดนครศรีธรรมราชจะดำเนินจัดสรรที่ดินทำกินให้กลุ่มผู้ร้องเรียนต่อไป หากกลุ่มผู้ร้องเรียนมีคุณสมบัติ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขครบถ้วนที่จะได้รับจัดสรรที่ดินทำกิน
     3. กรณีจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอสิชล องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งปรัง และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลทุ่งปรัง ไม่ร่วมพิจารณาแนวทางการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาการขอเช่าพรุน้ำสาธารณประโยชน์ หมู่ที่ 13 ตำบลทุ่งปรัง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้แก่ครอบครัวของผู้ร้องเรียน ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนร่วมกับผู้แทนจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอำเภอสิชล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งปรัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 และผู้ร้องเรียน โดยที่ประชุมมีมติว่าพื้นที่สาธารณประโยชน์ตามคำร้องเรียนไม่ปรากฏแนวเขตที่ดินที่ชัดเจน จึงได้มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งปรัง อำเภอสิชล และสำนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาสิชล ดำเนินการรังวัดและพิสูจน์สิทธิในที่ดินเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง และพิจารณาดำเนินการจัดที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้ชุมชนต่อไป
     4. กรณีจังหวัดนครศรีธรรมราชขอยกเว้นการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเพื่อใช้สำหรับการจัดการประเพณีสารทเดือนสิบ ประจำปี 2566 กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกรณีเทศบาลนครนครศรีธรรมราชละเลยปล่อยให้ร้านจำหน่ายสินค้าภายในงานประเพณีสารทเดือนสิบ ประจำปี 2566 ละเมิดการใช้ไฟฟ้าและ/หรือต่อไฟพ่วงจากระบบไฟฟ้าสาธารณะบริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 พรรษา ร่วมกับผู้แทนจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้แทนเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และผู้แทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยที่ประชุมมีมติว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชได้มอบหมายให้ผู้รับเหมาจัดเตรียมงานประเพณีสารทเดือนสิบ ประจำปี 2566 ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชไม่ต้องขอยกเว้นการวางเงินประกันเนื่องจากเป็นการใช้กระแสไฟฟ้าของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หน่วยงานผู้ดูแลพื้นที่ได้แจ้งขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครศรีธรรมราชทำการตัดมิเตอร์และให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครศรีธรรมราชทำการเรียกเก็บค่าใช้ไฟฟ้าจากผู้รับเหมาจัดงานประเพณีโดยตรง ดังนั้น เทศบาลนครนครศรีธรรมราชจึงไม่ได้ละเลยปล่อยให้ร้านจำหน่ายสินค้าภายในงานต่อไฟพ่วงจากระบบไฟฟ้าสาธารณะบริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 พรรษา แต่อย่างใดหลังจากนั้น เวลา 13.30 น. นายกมลธรรม วาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเมธี มั่นคง ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 2 นายอัครพงษ์ เวชยานนท์ ผู้อำนวยการส่วนสอบสวน 3 และคณะเจ้าหน้าที่สำนักสอบสวน 2 ร่วมกับผู้แทนของจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอปากพนัง และเทศบาลตำบลเกาะทวด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีผู้ร้องเรียนได้ร้องเรียนต่อเทศบาลตำบลเกาะทวดว่าได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถสัญจรและนำผลผลิตทางการเกษตรเข้าออกสู่ทางสาธารณประโยชน์ได้ เนื่องจากมีผู้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งเทศบาลตำบลเกาะทวดจะดำเนินการรังวัดสอบเขตที่สาธารณะดังกล่าวต่อไป